แบตเตอรี่โซล่าเซลล์เป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ใช้ในการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซล่าเซลล์ไว้ใช้ในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงแดดหรือในเวลากลางคืน แบตเตอรี่โซล่าเซลล์มีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไป การเลือกแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ
ประเภทของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
แบตเตอรี่โซล่าเซลล์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- แบตเตอรี่กรดตะกั่ว (Lead-acid battery) เป็นแบตเตอรี่ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่แพง ทนทานต่อการใช้งานในสภาพอากาศที่หลากหลาย และสามารถหาซื้อได้ง่าย แบตเตอรี่กรดตะกั่วแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่
- แบตเตอรี่แบบเปิด (Open-cell battery) เป็นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตเตอรี่แบบปิด (Closed-cell battery) แต่มีราคาที่ถูกกว่า
- แบตเตอรี่แบบปิด (Closed-cell battery) เป็นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่แบบเปิด แต่มีราคาแพงกว่า
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery) เป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่กรดตะกั่ว แต่มีราคาแพงกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ได้แก่
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโมโนลิเธียม (Monocrystalline lithium-ion battery) เป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาแพงที่สุด แต่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline lithium-ion battery) เป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาประหยัดกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโมโนลิเธียม แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า
คุณสมบัติของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
แบตเตอรี่โซล่าเซลล์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป คุณสมบัติที่สำคัญของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ได้แก่
- ความจุ (Capacity) หมายถึงปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่แบตเตอรี่สามารถเก็บไว้ได้ หน่วยวัดคือ แอมป์-ชั่วโมง (Ah)
- แรงดันไฟฟ้า (Voltage) หมายถึงแรงดันไฟฟ้าที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายได้ หน่วยวัดคือ โวลต์ (V)
- รอบอายุ (Cycle life) หมายถึงจำนวนรอบการชาร์จและจ่ายไฟที่แบตเตอรี่สามารถทนได้
- อัตราการคายประจุ (Discharge rate) หมายถึงอัตราที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟได้
- อุณหภูมิในการทำงาน (Operating temperature) หมายถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานแบตเตอรี่
การเลือกแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
การเลือกแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
-
ความต้องการใช้ไฟฟ้า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวันเป็นตัวกำหนดขนาดของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น หากบ้านหลังหนึ่งมีการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 1,000 หน่วยต่อเดือน ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยอยู่ที่ 4.5 บาทต่อหน่วย หากติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ขนาด 3 กิโลวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้ 3,000 หน่วยต่อปี ค่าไฟที่ประหยัดได้จะอยู่ที่ 13,500 บาทต่อปี ซึ่งสามารถลดค่าไฟได้ประมาณ 12,500 บาทต่อปี (คิดเป็น 125% ของค่าไฟที่จ่ายไป) หากต้องการลดค่าไฟให้มากขึ้น ก็ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุมากขึ้น
-
ระยะเวลาการใช้งาน หากต้องการแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ควรเลือกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี แบตเตอรี่กรดตะกั่วมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี
-
งบประมาณ แบตเตอรี่แต่ละประเภทมีราคาที่แตกต่างกันไป ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะกับงบประมาณ
การดูแลรักษาแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ควรได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น การดูแลรักษาแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ มีดังนี้
- ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานทุกครั้ง แบตเตอรี่ที่ใช้งานจนหมดเกลี้ยงบ่อยๆ จะมีอายุการใช้งานสั้นลง
- อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเกลี้ยง แบตเตอรี่ที่หมดจนเกลี้ยงจะไม่สามารถชาร์จกลับได้
- อย่าชาร์จแบตเตอรี่นานเกินไป การชาร์จแบตเตอรี่นานเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย
- เก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่แห้งและเย็น สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือความชื้นสูงจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
สรุป
การเลือกแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้า ระยะเวลาการใช้งาน และงบประมาณ การดูแลรักษาแบตเตอรี่โซล่าเซลล์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น